พระปรางค์สามยอด
พระปรางค์สามยอด ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ริมทางรถไฟใกล้กับศาลพระกาฬ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของลพบุรี มีลักษณะเป็นปราสาทขอม ศิลปะแบบบายน สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เกือบ 400 ปีมาแล้ว โครงสร้างของปราสาททำจากศิลาแลงฉาบปูน เรียงต่อกัน 3 องค์ มีฉนวนทางเดินเชื่อมต่อกัน เรียกว่า มุขกระสัน ส่วนที่เป็นองค์พระปรางค์ มีรูปทรงสัณฐาน คล้ายกับฝักข้าวโพด ตั้งตรงขึ้นไปบนฐานรูป 4 เหลี่ยม ขนาดลดหลั่นซ้อนเทินขึ้นไป แต่เดิม ปราสาทประธาน (องค์กลาง) ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก ปราสาททิศใต้ (องค์ทางขวา) ประดิษฐานรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปราสาททิศเหนือ (องค์ทางซ้าย) ประดิษฐานรูปนางปรัชญาปารมิตา ปัจจุบันเหลือเพียงเสาประดับกรอบประตูแกะสลักเป็นรูปฤาษีนั่งชันเข่าในซุ้มเรือนแก้ว และวิหารก่ออิฐถือปูนที่ได้ต่อเติมขึ้นมาใหม่ เชื่อมกับปราสาทประธานเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ใครสนใจอยากมาเที่ยวชมพระปรางค์สามยอด ที่มีความสวยงาม และยิ่งใหญ่อลังตามแบบฉบับปราสาทศิลปะขอมโบราณ สามารถมาเที่ยวได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. นอกจากนี้เรายังสามารถให้อาหารฝูงลิงจ๋อที่วิ่งป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณรอบพระปรางค์ได้ด้วย ซึ่งลิงพวกนี้ไม่เกเร เพราะมีความคุ้นชินกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ทุ่งทานตะวัน
เขาจีนแล ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นที่ตั้งของ ทุ่งทานตะวัน ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 355 ไร่ บรรยากาศของทุ่งทานตะวันสีเหลืองอร่าม นี้ ที่สวยงดงามก็เพราะว่ามีวิวด้านหลังเป็นภูเขารอบล้อม และสามารถมองเห็น วัดเวฬุวัน วัดสีขาวอยู่ไกลๆ ยังไม่พอแค่นี้ เพราะที่นี่มีจุดถ่ายรูปเยอะแยะมากมายอีกด้วย แถมยังมีกิจกรรมนั่งรถไฟชมทุ่งทานตะวัน ที่เสียค่าบริการแค่คนละ 20 บาทเท่านั้น ก็ได้ชมวิวสวยๆ จัดเต็มแบบนี้แล้ว ถ้าจะมาถ่ายรูปสวยๆ แบบอากาศไม่ร้อนมาก แนะนำว่าต้องมาช่วงประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ ที่แสงกำลังดี และคนก็ไม่เยอะหนาแน่นจนเกินไป ดอกทานตะวันจะชูช่อหันหน้าเข้าดวงอาทิตย์พอดี ทำให้เหมาะสำหรับการถ่ายรูปสวยๆ ส่วนบริเวณรอบๆ ของทุ่งดอกทานตะวันนั้น ก็จะมีของขายมากมายอีกด้วย แม้แต่ เมล็ดทานตะวัน ที่คั่วให้ทานกันสดๆ เลย ส่วนการนั่งรถรางชมทุ่งทานตะวันนั้น จะมีค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ 20 บาท และเด็ก 10 บาท โดยรถนั้นจะพานักท่องเที่ยวเข้าไปชมทานตะวันในแปลงด้านใน และมีจอดให้แวะลงไปถ่ายรูป 5 - 10 นาที ให้สามารถทัวร์รอบทุ่งกันได้ครบเลยค่ะ โดยปกติแล้วนั้น ดอกทานตะวันจะเริ่มบานในช่วงหน้าหนาวของทุกปี
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด สำหรับ “รถไฟลอยน้ำ” ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเราจะได้นั่งรถไฟที่ทอดยาวข้ามไปบนอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ และสามารถลงไปถ่ายรูป เก็บภาพสวย ๆ ของทางรถไฟได้อีกด้วย นอกจากนี้ทางจังหวัดลพบุรี ยังได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เรามีส่วนร่วมอีกมากมาย เช่น การแสดงวิถีชีวิตของชุมชนไทยเบิ้ง การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง OTOP การจัดรถตัวหนอนวิ่งชมบรรยากาศบริเวณสันเขื่อนฯ ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การก่อสร้างเขื่อนป่าสักฯ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ชมฟาร์มแพะ แกะ ชมทิวทัศน์รอบเขื่อนบนหอชมวิว และมีบริการรถม้าลากจูง หรือบริการรถรางวิ่งผ่านสันเขื่อนไปสักการะหลวงปู่ใหญ่ อ.วังม่วง จ.สระบุรี